คุณพ่อคุณแม่มิลเลนเนียล กลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ที่ร้านอาหารลืมนึกถึง

อย่างที่เราทราบกันดีนะครับว่า ธุรกิจร้านอาหารนั้นเป็นธุรกิจยอดนิยมมากในประเทศไทย ใครคิดอะไรไม่ออกก็เปิดร้านอาหาร แต่ร้านอาหารที่ดีต้องมีอะไรบ้าง?

นี่คือโจทย์ปัญหาโลกแตกของผู้ประกอบการต้องหาคำตอบให้ได้ คุณภาพอาหาร บรรยากาศ ราคา ความเป็นส่วนตัวหรือรองรับการสังสรรค์ ทำเลและโปรโมชัน

เรียกได้ว่าสมการของการทำร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จแทบจะไม่มีสูตรตายตัว ธุรกิจร้านอาหารจึงเป็นอีกหนึ่งในธุรกิจปราบเซียนอย่างที่มนุษย์กลยุทธ์เคยได้เล่าไว้ก่อนหน้านี้

ในขณะที่ร้านอาหารทั้งหลายต่างมุ่งมั่นสร้างบรรยากาศและบริการให้รับกับกลุ่มลูกค้ากลาง ๆ อย่างครอบครัวใหญ่ เพื่อนฝูง คู่รัก หรือกลุ่มผู้บริโภคส่วนมากที่จะสามารถแชร์พื้นที่ได้ร่วมกัน แต่ก็ยังมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งครับที่มีความต้องการเฉพาะกว่า นั่นก็คือคุณพ่อคุณแม่ชาวมิลเลนเนียลนั่นเองครับ

มิลเลนเนียลคือใคร?

ตอบกันอีกครั้งว่ามิลเลนเนียลก็คือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 1980 – 1995 ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่อายุราว 25 – 40 ปี มีจำนวนกว่า 1,800 ล้านคนบนโลกใบนี้

หากขีดเส้นรวมให้เป็นกลุ่มใหญ่ นักการตลาดต่างวิเคราะห์กันว่าชาวมิลเลนเนียลเป็นผู้บริโภคเรื่องมากอยู่พอตัว เพราะแม้จะมีรสนิยมและความต้องการที่เฉพาะเจาะจงในระดับหนึ่ง แต่กลับอยู่ในช่วงอายุที่เริ่มจะคิดหน้าคิดหลังมากขึ้นเรื่องการใช้จ่าย แตกต่างจากคนรุ่นก่อนหน้าที่มองหาคุณภาพเหนือกว่าหน้าตาหรือเงื่อนไขอื่น และแตกต่างจากคนรุ่นหลังที่ยังอยู่ในช่วงอายุจับจ่ายใช้สอยได้อย่างสบายใจเฉิบ

สิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังอยู่ในโฟกัสของธุรกิจก็คือ การเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักที่มาพร้อมกำลังซื้อเยอะพอสมควร ทำให้นักการตลาดยังต้องศึกษาพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคกลุ่มนี้อยู่ตลอด โดยเฉพาะเมื่อมิลเลนเนียลขยับมาอยู่ในช่วงอายุที่เริ่มเปลี่ยนสถานะ First Jobber เป็น Senior จากซื้อความสุขกลายเป็นซื้อความมั่นคง จากลูกชายลูกสาวก็พ่วงมาด้วยความเป็นพ่อแม่ เดิมทีแสนจะเรื่องมากอยู่แล้วก็ยิ่งมีความต้องการที่จุกจิกซับซ้อนไปมากกว่าอีกเท่าตัว

เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนเคยประสบปัญญาอยากไปร้านอาหารดี ๆ ใจจะขาด รสนิยมพร้อม เงินพร้อม เร่งเคลียร์งานสับรางจนพร้อมแล้ว แต่โดนเบรกเพราะบรรดาลูก ๆ ไม่เข้าใจ โดยเฉพาะเมื่อมิลเลนเนียลเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่สำนึกได้ว่า #ลูกเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน เพราะรสนิยมแบบมิลเลนเนียลจ๋ากับธรรมชาติของเด็กนั้นแทบไปกันไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ชาวมิลเลนเนียลกว่า 1 ใน 4 จึงตัดปัญหาด้วยการไม่เข้าร้านอาหารมันเสียเลย

สิ่งที่ทำให้บริการรับส่งอาหารเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วก็อาจเป็นเพราะปัญหาข้อนี้ด้วยเช่นกัน คุณพ่อคุณแม่ในวัยนี้ตัดใจสั่งอาหารมากินที่บ้าน หรือกระทั่งกินอาหารในรถเพื่อเลี่ยงสถานการณ์ที่ลูกตัวเองร้องกริ๊ด ๆ ในร้าน โดยมีแซนด์วิช เบอร์เกอร์ และอาหารจำพวกฟิงเกอร์ฟู้ดเป็นตัวเลือกยอดนิยม นับเป็นเรื่องน่าเศร้า น่าหงุดหงิด น่าถอนหายใจทั้งฝั่งร้านอาหารและฝั่งผู้บริโภคในคราวเดียวกัน

ขณะที่โรงหนังบ้านเราเริ่มมีบริการโรงหนังสำหรับเด็ก มีบ้านบอลเพื่อเป็นการรอมชอมกันระหว่างความเจี๊ยวจ๊าวของบรรดาลูก ๆ กับความอยากดูหนังของคุณพ่อคุณแม่แล้วหลายแห่ง หากโมเดลเดียวกันนี้สามารถเกิดขึ้นกับร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการจัดการพื้นที่โซนพ่อแม่และเด็ก การจัดบริการที่สามารถดูแลเด็ก ๆ ในช่วงเวลาหนึ่งถึงสองชั่วโมงที่พ่อแม่ชาวมิลเลนเนียลจะสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศและอาหารดี ๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องลูก

หรือจะเป็นบริการแบบอื่นที่ตอบโจทย์ความต้องการอันซับซ้อนเหล่านี้ได้ น่าจะเรียกความนิยมรับการตอบรับจากคุณพ่อคุณแม่กลุ่มนี้เป็นอย่างดี แทนที่จะออกแบบจากรสนิยมและพฤติกรรมการจับจ่ายของมิลเลนเนียลอย่างเดียว ร้านอาหารที่พร้อมจะปรับเปลี่ยนน่าจะลองเพิ่มเงื่อนไขตามอายุอย่างเช่นการเริ่มสร้างครอบครัวเข้าไปอีกข้อ แล้วก็รอนับเงินได้เลยเพราะมนุษย์กลยุทธ์เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่เหล่านี้ยอมจ่ายอย่างแน่นอน

สิ่งหนึ่งที่มนุษย์กลยุทธ์อยากฝากไว้คือ เราต้องมองคนกลุ่มนี้ใหม่ เพราะปัจจุบันมิลเลนเนียลนั้นไม่ใช่เด็ก ๆ อย่างเคยเป็นแล้ว เป็นกลุ่มที่เริ่มมีกำลังซื้อ เริ่มสร้างครอบครัว เริ่มมีลูกเล็กเด็กแดงห้อยตามติดมา ดังนั้นแล้วหากใครกำลังอยากทำธุรกิจหรือกำลังทำอยู่ก็ตาม แต่ยังหากลุ่มเป้าหมายไม่เจอ หรืออยากจะลองขยายกิจการ ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกลุ่มนี้นะครับ บางครั้งบางหากจับทางถูกอาจสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ธุรกิจของคุณก็ได้นะครับ

หากไม่อยากพลาดข้อมูลดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ อย่าลืมกด Subscribe ไว้ด้วยนะครับ