สำหรับแบรนด์เครื่องสำอางที่เพิ่งเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อไม่นานมานี้ นั่นคือ Rojukiss บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS ที่สาวๆ น่าจะคุ้นเคยกันดีกับ Core Value สินค้านำเข้าจากเกาหลี แต่ราคาจับต้องได้ และเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่ประสบความสำเร็จจากการวางขายสินค้าใน 7-Eleven โดยปัจจุบัน Rojukiss ประกอบธุรกิจ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงผิว โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา และอินโดนีเซีย ภายใต้แบรนด์ Rojukiss, PhDerma, Best Korea และ Sis2Sis
![](https://static.wixstatic.com/media/096d0f_ffe960b430464659bb2d7cf3e532abe2~mv2.jpg/v1/fill/w_147,h_83,al_c,q_80,usm_0.66_1.00_0.01,blur_2,enc_auto/096d0f_ffe960b430464659bb2d7cf3e532abe2~mv2.jpg)
สินค้าขายดี หรือ Product Hero ทำให้แบรนด์ Rojukiss ติดตลาดคือ เซรั่มโรจูคิส ทำให้ผลประกอบการปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 167,992,157 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่ากำไรสุทธิจะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 แต่ถ้าเทียบกับสินค้าเครื่องสำอางที่เทรดอยู่ในตลาดหุ้น ถือว่าโรจูคิสมีความได้เปรียบ ทั้งในแง่สินค้าที่เจาะ Mass Market และการรับจ้างผลิต (OEM) สำหรับเจาะตลาด Business-to-Business (B2B) ส่วนช่องทางการจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ของ KISS วางจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อและโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ และช่องทางการตลาดที่จะเปิดใหม่ในปีนี้ คือ การขยายช่องทางการจำหน่ายตรงไปยังผู้บริโภค หรือ Direct-to-consumer (D2C)
ถ้าถามว่าอนาคตของโรจูคิส หลังไอพีโอ จะไปทางไหน?
ตามข้อมูลของ Nielsen ปี 2562 ระบุว่า Value Proposition มีความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเซรั่ม, ผลิตภัณฑ์ดูแลสิว, ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย ที่มียอดขายเชิงมูลค่าเป็นอันดับ 1 ในประเทศ เทียบในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของผู้หญิง (Women Facial Moisturizer) และในกลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง แบรนด์ Sis2Sis ทางบริษัทก็ปรสบความสำเร็จจากการปั้นแบรนด์ “ลิปสติกแบบซอง” ซึ่งเป็นการปรับแพ็คเกจจิ้งแบบใหม่ เหมาะสำหรับการเดินทาง และราคาจับต้องได้ เพียงแค่ราคา 49 บาท ซึ่งถือเป็นการจับตลาดแบบ Micro Scale ซึ่งเป็น Red Ocean ในปัจจุบัน
ที่มา :
https://www.rojukissinternational.com/th