ใครบอก "เป็นเป็ด" ไม่ดี?คนที่ไม่ได้มีความสามารถพิเศษด้านใดก็มีโอกาสสำเร็จสูง

เดวิด เอฟสไตน์ (ผู้เขียนหนังสือเรื่อง 'ยอดมนุษย์นักกีฬา') กล่าวว่าในโลกความเป็นจริงคนที่

#มีความสามารถเฉพาะทางอาจมีโอกาสสำเร็จน้อยกว่า คนที่เป็น ‘เป็ด’ หรือคนที่ไม่ได้ชำนาญด้านใดเป็นพิเศษ

เอฟสไตน์เล่าว่าในประเทศอังกฤษและสกอตแลนด์ เด็กที่มีความสามารถเฉพาะทางจะสามารถหางานแรกได้เร็วพร้อมกับค่าตอบแทนที่สูง ส่วนเด็กที่ไม่ชำนาญด้านใดเป็นพิเศษจะมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ต่ำกว่า

แต่เรื่องที่น่าสนใจก็คือ 6 ปีหลังจากนั้น เด็กจำพวก ‘เป็ด’ จะสามารถไต่เต้าจนสามารถลดช่องว่างในตอนแรกได้ ในขณะที่เด็กเฉพาะทางจะลาออกจากงานเนื่องจากพวกเขาถูกบีบให้เลือกงานเร็วเกินไป

วงการนักกีฬาและนักดนตรีก็มีรูปแบบคล้ายกันครับ เอฟสไตน์บอกว่าคนดังจำนวนมากจะเริ่มเรียนรู้กีฬาและเครื่องดนตรีหลายชนิดก่อนที่จะเริ่มโฟกัสไปที่อย่างใดอย่างหนึ่ง แนวทางเช่นนี้จะทำให้พวกเขาได้ฝึกทักษะอื่นๆ และค้นพบตัวเอง

โรเจอร์ เฟเดเรอร์ นักเทนนิสชื่อดังของโลก ก็เคยเป็น ‘เป็ด’ ที่ได้ลองกีฬาหลายชนิด ตั้งแต่ บาสเกตบอล ปิงปอง ว่ายน้ำ ต่อยมวย

เอฟสไตน์ชี้ว่าทั้งโลกมักให้ความสำคัญของเรื่องเล่าของคนที่มีความสามารถเฉพาะทาง เช่น ไทเกอร์ส วูด ที่หัดตีกอล์ฟมาตั้งแต่เด็ก เรื่องเล่าแบบนี้มักได้รับความนิยมเพราะมันกินใจผู้ฟัง แต่ในความจริงแล้วความสำเร็จก็ไม่ได้เกิดแบบนั้นเสมอไป

คนที่ไม่ชำนาญในด้านใดเป็นพิเศษยังสามารถนำเอาความรู้จากต่างแขนงมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน ในขณะที่ผู้ที่มีความรู้เฉพาะทางจะไม่สามารถมองภาพกว้างจนทำแบบนั้นได้

กุนเป โยโคอิ ผู้ก่อตั้ง Nintendo ก็เคยเป็น ‘เป็ด’ ที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรในระหว่างเรียน แต่เขาสามารถนำเอาเทคโนโลยีของเครื่องคิดเลขมาประยุกต์ร่วมกับเทคโนโลยีเครดิตการ์ด เกิดเป็นเครื่องเกมค่าย Nintento ที่ใครๆ ก็ต้องรู้จักกันทั้งนั้น

การเป็น ‘เป็ด’ ไม่ได้เป็นข้อเสียอะไรเลย เพราะในโลกนี้ยังมีคนที่ประสบความสำเร็จอีกมากทั้งที่พวกเขาก็ไม่ได้มีความสามารถเฉพาะทางเท่าคนอื่นเลยครับ

.

อ้างอิง: https://ted2srt.org/.../david_epstein_why_specializing...